Visa ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินระดับโลก ประกาศเปิดตัวบริการที่ปรึกษาและให้แนะนำเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ โดยบริการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนกให้คำปรึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงการออกโทเคนและ NFTs แก่สถาบันการเงิน ร้านค้า และองค์กรต่างๆ ที่สนใจ 

Visa ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ปรึกษานี้แล้ว ได้แก่  American Bank UMB

การเคลื่อนไหวดังกล่าวของ Visa ถือเป็นความพยายามขยายธุรกิจเข้าสู่โลกคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปให้บริการธุรกรรมชำระเงินผ่านบัตรที่ผูกติดกับสกุลเงินดิจิทัลไปแล้ว 

“ปริมาณธุรกรรมชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลที่ Visa ได้เข้าไปให้บริการมีสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่เป็นลูกค้าของ Visa หลายแห่งมีลูกค้าหลักล้านราย และบางแห่งอาจสูงถึงหลายสิบล้านราย โดยปัจจุบัน Visa เปิดให้มีการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลกับร้านค้าได้มากกว่า 80 แห่ง” Nikola Plecas หัวหน้าแผนกคริปโตเคอร์เรนซีในยุโรปของ Visa กล่าว

Plecas เปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบัน Visa อยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoins และ CBDC โดยบริษัทหวังว่าบริการที่ปรึกษาคริปโตเคอร์เรนซีจะมีส่วนช่วยให้บิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายมากขึ้น

ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินรายใหญ่ของโลก เช่น Visa และ Mastercard ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากบรรดาฟินเทคจำนวนมากที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทั้งสองยักษ์ใหญ่ในเวลานี้ต่างหันมาขยายธุรกิจของตัวเองเข้าสู่โลกคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น

โดยในเดือนที่ผ่านมา บริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ได้ออกมาขู่ว่าจะหยุดรับการชำระค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิตของ Visa เนื่องจาก Visa คิดค่าธรรมเนียมสูงเกินไป

“เรามองว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้สูงมาก เราจึงมีแผนจะโฟกัสไปที่การขยายธุรกิจด้านนี้มากขึ้นต่อไป” Plecas กล่าว

ทั้งนี้ Visa ยังมีการเปิดเผยผลสำรวจที่บริษัทจัดทำร่วมกับพันธมิตรคือ LRW ซึ่งได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีจากผู้คนทั่วโลกมากกว่า 6,000 ราย โดยพบว่า 94% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้จักคริปโตเคอร์เรนซีไม่มากก็น้อย ขณะที่ 1 ใน 3 ตอบว่าเคยลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้แล้ว